Your Cart

Follow us

วิธีควบคุมความร้อนในเต้นท์เพาะปลูก

วิธีควบคุมความร้อนในเต้นท์เพาะปลูก

มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่พูดถึงการรักษาระดับความร้อนให้คงที่ในเต้นท์เพาะปลูกอยู่ หากว่าคุณกำลังมีปัญหากับอุณหภูมิที่สูงหรือผันผวนเกินไป ขอให้รู้ไว้ว่าคุณไม่ใช่ผู้เพาะปลูกคนแรกที่ประสบปัญหานี้ และก็ไม่ใช่คนสุดท้ายเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชอยู่ที่ราว ๆ 70 – 80 องศาฟาเรนไฮท์ (ราว 20-30 องศาเซลเซียส) เป็นช่วงระยะที่พืชจะสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป อาจจะเป็นการยากที่จะรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับนี้ในพื้นที่แคบที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อีเล็คโทรนิค ยิ่งยากไปกว่านั้น เพียงแค่กดอุณหภูมิในเต้นท์ให้ต่ำนั้นก็ยังไม่เพียงพอ คุณยังต้องรักษาความสม่ำเสมอให้ได้อีกด้วย อุณหภูมิที่ผันผวนทำให้พืชเกิดความเครียด ซึ่งจะนำไปสู่พืชที่สุขภาพแย่ที่ให้ผลผลิตต่ำ

งานทั้งสองอย่างนี้ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นผู้เพาะปลูกมือใหม่ ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ไหนจะความชื้น แถมยังมีสภาพแวดล้อมภายนอกอีก มีปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่รบกวนความสามารถในการควบคุมความร้อนในเต้นท์เพาะปลูก

เลือกใช้ไฟ LED เพื่อการเพาะปลูก

ไฟเพาะปลูกที่คุณเลือกใช้มีผลใหญ่หลวงกับสภาพแวดล้อมภายในเต้นท์เพาะปลูก ผู้เพาะส่วนใหญ่เลือกใช้หลอด HID หรือไม่ก็ LED หลอด HID จะเป็นแสงไฟแบบ HPS (High-pressure sodium) หรือ MH (metal halide) ก็ได้ ผู้เพาะปลูกที่ใช้ HID ก็จะเลือกใช้แบบ MH ในช่วงเจริญเติบโต และใช้ HPS สำหรับช่วงออกดอก วิธีนี้เป็นวิธีดั้งเดิมในการเลือกไฟเพื่อเพาะปลูก แต่ในปัจจุบัน วิธีนี้ไม่ใช่วิธียอดนิยมอีกต่อไป เพราะขณะนี้ แม้กระทั่งผู้เพาะปลูกในบ้านก็ยังเลือกใช้ไฟ LED มากกว่า HID

แม้ว่าเทคโนโลยี LED จะค่อนข้างใหม่และยังมีราคาในการติดตั้งค่อนข้างมาก แต่ก็มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งในแง่การใช้พลังงานที่น้อยกว่า HID ถึงครึ่งหนึ่ง แถมไฟ LED คุณภาพสูงก็ยังอยู่ได้นานถึง 10-15 ปี และยังให้ผลผลิตที่มีคุณภาพกว่าอีกด้วยที่สำคัญ คือ LED ผลิตความร้อนน้อยกว่ามาก จริงอยู่ว่าคุณจะต้องจัดการกับความร้อนในเต้นท์เพาะปลูกอยู่ดีไม่ว่าจะใช้ไฟประเภทใด แต่ไฟ LED สำหรับเพาะปลูกนั้นทำให้งานส่วนนั้นของคุณง่ายลงไปมาก เพราะจะต้องใช้อุปกรณ์ทำความเย็นน้อยกว่ามากหากใช้ไฟ LED

ติดตั้งระบบระบายอากาศที่มีคุณภาพ

หากคุณไม่มีระบบระบายอากาศ ไปหามาติดเสียนะครับ ถ้ามีอยู่แล้วก็ดูให้แน่ใจว่าติดตั้งอย่างถูกต้องและมีพลังมากพอที่ตอบโจทย์ของคุณได้ ระบบระบายอากาศควบคุมความร้อนในเต้นท์ด้วยการระบายอากาศร้อนออกไปและพาอากาศเย็นเข้าไปแทนที่ ตามปรกติประกอบไปด้วยพัดลมดูดอากาศ ท่อ และตัวกรองคาร์บอนเพื่อช่วยลดกลิ่นที่เกิดจากพืช พัดลมดูดอากาศเป็นตัวแลกเปลี่ยนอากาศ มันจะดูดเอาอากาศร้อนที่ติดอยู่ด้านในเต้นท์ออกไปและนำอากาศเย็นจากภายนอกเข้ามาในบริเวณเพาะปลูก

ท่อช่วยกำหนดทิศทางการเคลื่อนตัวของอากาศร้อนหนืดที่พัดลมดูดออกมาเมื่อครู่ การเชื่อมท่อไว้กับหน้าต่างหรือรูบนเพดานสำคัญอย่างยิ่งเพราะคุณคงไม่ต้องการให้อากาศที่เพิ่งดูดออกไปนั้นมารายล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวเต้นท์ใช่ไหม…ไม่เช่นนั้น อากาศพวกนั้นก็จะย้อนกลับมาด้านในอีกครั้งแน่นอน

ควบคุมความร้อนภายในเต้นท์เพาะปลูกด้วยการควบคุมความร้อน รอบ ๆ เต้นท์เพาะปลูก

ลองสำรวจดูบริเวณที่คุณตั้งเต้นท์เพาะปลูกอีกครั้งหนึ่ง จำไว้เสอว่าระบบระบายอากาศชั้นเยี่ยมจะนำอากาศจากรอบ ๆ ตัวเต้นท์เข้าไปในเต้นท์ ถ้าอากาศภายนอกร้อน อากาศภายในเต้นท์ก็จะร้อนเช่นกัน

คุณอาจจะเคยคิดจะย้ายเข้าไปในห้องที่เย็นกว่าเดิม เช่น ห้องใต้ดิน หากคุณมีระบบทำความเย็นกลาง อีกตัวเลือกก็คือตั้งเต้นท์ใกล้ ๆ ช่องแอร์

แน่นอนว่า คุณสามารถจะตั้งเต้นท์เพาะปลูกข้าง ๆ หน้าต่างได้ ตัวเลือกนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงอากาศเย็นได้ง่ายขึ้นในขณะเดียวกันยังเป็นการง่ายต่อการตั้งท่อให้ออกจากห้องไปอีกด้วย

ลองติดตั้งเครื่องปรับอากาศ

ไม่ว่าคุณจะติดไวด้านในหรือด้านนอก เครื่องปรับอากาศก็จะเป็นอุปกรณ์สุดวิเศษสำหรับการจัดการความร้อนในเต้นท์

หากติดไว้ด้านใน คุณก็จะสามารถควบคุมบรรยากาศโดยรอบของพืชได้โดยตรง คุณเพียงต้องระวังอย่าทำให้อากาศเย็น เกินไป เท่านั้น กระทั่งพัดลมเพดานก็ยังช่วยเรื่องการลดความร้อนได้ พัดลมทำให้อากาศร้อนสลายตัวและทำให้อากาศถ่ายเทและไม่เกิดการเหม็นอับ

หากคุณยังไม่พร้อมที่จะไปจัดแจงปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายในตัวเต้นท์ ลองติดเครื่องปรับอากาศในห้องที่มีเต้นท์ของคุณอยู่ดู เครื่องปรับอากาศจะช่วยให้ห้องเย็นและง่ายต่อการควบคุมอุณหภูมิให้สม่ำเสมอ

จำไว้เสมอว่าเครื่องมืออิเล็กโทรนิคก่อให้เกิดความร้อน

แผงไป ปั๊มน้ำ ระบบเครื่องกรอง…อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคทั้งหมดที่คุณใช้ช่วยให้ได้ผลผลิตมากขึ้นแต่ก็ยังเพิ่มความร้อนให้กับเต้นท์เพาะปลูกอีกด้วย

แต่คุณก็ไม่สามารถจะหยุดใช้พวกอุปกรณ์หลัก ๆ ได้หรอก แต่ว่า คุณอาจจะลองย้ายอุปกรณ์เหล่านั้นออกมานอกเต้นท์แทน โดยต่อปลั๊กพ่วงหรือท่อเข้าไป

แล้วคุณจะแปลกใจว่าคุณลดความร้อนลงได้มากแค่ไหนเพียงแค่ย้ายอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคออกเท่านั้น

เปิดไฟตอนกลางคืน

หากคุณตั้งเต้นท์เพาะปลูกอย่างถูกวิธี คุณควรจะต้องมีพื้นที่เพาะปลูกที่ปราศจากมลภาวะทางแสง แปลว่า คุณไม่จำเป็นต้องตามรอบวัน/คืนปรกติ ต้นไม้ของคุณไม่รู้เวลาหรอกครับ

เพราะภายในเต้นท์เพาะปลูกนั้น คุณอยากจะให้มันเป็นกลางวันเมื่อไรก็ย่อมได้

ช่วงนี้ คุณอาจจะอยากให้พืชได้รับแสงตลอด 24 ชั่วโมง แต่คุณก็สามารถตั้งเวลาเปิดไฟไว้เฉพาะตอนกลางคืนได้

แล้วทำไมต้องทำแบบนั้น

เหตุผลก็เพราะว่า ถึงแม้ว่าพระอาทิตย์จะส่องแสงมาไม่ถึงต้นไม้ตรง ๆ แต่แสงของมันก็ทำให้ห้องที่คุณตั้งเต้นท์เอาไว้นั้นอุ่นขึ้น แปลว่าพระอาทิตย์ก็ยังคงสร้างความร้อนเข้าไปในเต้นท์ได้ แม้จะโดยอ้อมสักเพียงใดก็ตาม

หากคุณเปิดไฟเพาะปลูกเฉพาะตอนกลางคืน ก็จะเป็นกลางเปลี่ยนปัจจัยสร้างความร้อนอันหนึ่งไปสู่อีกอัน แทนที่จะแค่เบิ้ลระดับความร้อนเข้าไป

เก็บความร้อนไว้แล้วใส่คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่ม

หากคุณยังใหม่กับการเพาะปลูกในบ้าน เราจะแนะนำให้คุณลองทำตามคำแนะนำข้างบนนี้เพื่อลดระดับความร้อนให้ต่ำเข้าไว้

แต่ทว่า หากคุณพอมีประสบการณ์บ้างแล้วและพร้อมจะไปต่อ คุณอาจจะลองทำแบบนี้ได้

แทนที่จะลดความร้อน เพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์แทน

หากทุกอย่างเท่าเทียมกัน ความร้อนสูงเกินไปจะทำร้ายพืชของคุณ คาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไปก็เช่นกัน แต่ว่า หากคุณเพิ่ม ทั้งสองอย่าง พร้อม ๆ กัน คุณจะสามารถเพิ่มผลผลิตของตนเองได้ เพราะว่าหากต้นไม้ของคุณมีอุณหภูมิใบที่สูงเพื่อก็จะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้น

คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับปุ๋ยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ที่นี่ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลา ตรงนี้เราสรุปมาให้แล้วครับ

หากคุณต้องการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ คุณสามารถปล่อยให้อุณหภูมิในเต้นท์เพาะปลูกเพิ่มขึ้น 2-3 องศาได้

ไม่ว่าคุณจะเลือกบริหารความร้อนหรือลดความร้อนก็ตาม เราขอให้คุณหาจุดที่เหมาะสมสำหรับต้นไม้ที่คุณกำลังปลูกพบโดยเร็วครับ

หากคุณสนใจลดความร้อนโดยเปลี่ยนมาใช้ไฟ LED เพื่อการเพาะปลูก ขอแนะนำให้ดู  SolarXtreme series จาก California LightWorks รุ่นนี้ทั้งกระทัดรัด ราคาย่อมเยาว์แต่ให้ผลผลิตแบบเต็ม ๆ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *